การบ้าน และ งานต่าง ๆ

ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553
งานเดี่ยว
1. อธิบายความแตกต่างของ "การค้าระหว่างประเทศ (International trade)" กับ การตลาดระหว่างประเทศ (International marketing)"
2. ออกแบบหน้า Blog ของตัวเอง โดยใช้ข้อมูล ภาพ และ Link ที่เกี่ยวข้องกับรายงานกลุ่ม

3. กรุณาตอบคำถามข้างล่าง *****
งานกลุ่ม
1. หาข้อมูลพื้นฐานของประเทศที่สนใจ

ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553
* แก้ไข Blog ให้เป็นธุรกิจ (คิดถึงตลาดเป้าหมาย) และใส่ข้อมูลตามสั่ง
** ยังมองไม่เห็น link ของหลายคน หลังวันศุกร์ที่ 12 ถือว่าส่งงานล่าช้า ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553
***ยังมองไม่เห็น link ของหลายคน
งานเดี่ยว...1.หาบทความที่เกี่ยวกับสินค้าส่งออก ยาว 1 หน้า + Link
2.วิเคราะห์ SWOT ของสินค้านั้น ถ้าจะส่งออกไปยังประเทศของกลุ่ม
*** ให้เพื่อนกลุ่มอื่นเข้าไปดูอย่างน้อย 15 คน

ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553
1.แก้งานทุกงานที่ผ่านมา ใครไม่แก้ไม่ให้คะแนนแล้ว
2.เตรียมหาข้อมูลสินค้าและประเทศ เพื่อมาใช้ในรายงาน

ประจำวันที่ 10 มกราคม 2554
อ่าน 2 บทความใหม่ และตอบคำถามไว้ในบล็อกของตัวเอง

9 พฤศจิกายน 2553

ซื้อไหม ???

ถ้าคุณรวยมาก คุณจะซื้อภาพนี้ในราคา 1,000 ล้านบาทไหม


ถ้าภาพนี้วาดโดย Andy Warhol ยังซื้อไหม
Andrew Warhola (August 6, 1928 – February 22, 1987), known as Andy Warhol, was an American painter, printmaker, and filmmaker who was a leading figure in the visual art movement known as pop art.

8 พฤศจิกายน 2553

Thai food takes New York

New restaurants and chefs are focusing
on flavors from Thailand
October 26, 2010 | By Bret Thorn


Kittichai, an upscale Thai restaurant in New York.

1. ไก่ย่าง

2. บะหมี่

3. ลาบเป็ด

4. แกงเขียวหวาน

  1. Kittichai executive Chef Ty Bellingham moves a northeastern Thai roast chicken dish upscale by making it with Cornish game hen.
  2. At Kin Shop, Chef Harold Dieterle’s version of Thai ba mee is egg noodles with maitake mushroom broth, topped with a poached duck egg. (Photo: Vicki Wasik)
  3. Laab, a northeastern Thai dish traditionally made with chicken, beef, or pork, is made with duck at Kin Shop and served with romaine hearts. (Photo: Vicki Wasik)
  4. The green curry at Pranna is served with giant scallops.

คุ้นกับอาหารไทยแบบนี้หรือเปล่า


กรูณาอ่านเพิ่มเติมที่: http://www.nrn.com/

1 พฤศจิกายน 2553

วัยทีนเลือกแบรนด์มากกว่าคนสูงอายุ

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 4 มิถุนายน 2553 16:41 น.

** คำถาม จงเปรียบเทียบพฤติกรรมการบริโภคของเด็กไทยกับเด็กอเมริกัน

ตลาดของวัยรุ่นหรือทีนเอจเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าสนใจของนักการตลาดมาโดยตลอด การทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกแบรนด์ของลูกค้าวัยทีน จึงเป็นประเด็นที่มีความสำคัญ และเป็นสารสนเทศที่ต้องการแสวงหากันอย่างต่อเนื่อง

การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ของไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ ได้เปิดเผยข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าวัยทีน โดยมีประเด็นทางการตลาดที่น่าสนใจ

ประการแรก ลูกค้าวัยทีนเป็นลูกค้าที่ใช้คำบอกกล่าวจากเพื่อนเป็นหลักในการตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าอะไร และมีพฤติกรรมการซื้อตามกันค่อนข้างมาก
ประการที่สอง ลูกค้าวัยทีนไม่ได้ละทิ้งความสนใจต่อโฆษณาเสียทีเดียว การสำรวจพบว่าลูกค้าวัยนี้ใช้งานโฆษณาเป็นการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์
ประการที่สาม ในประเด็นเกี่ยวกับแบรนด์ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างลูกค้าในวัยต่างๆ กันแล้ว พบว่าลูกค้าวัยทีนมีความซีเรียสและกังวลต่อการตัดสินใจเลือกแบรนด์มากกว่าคนวัยอื่นๆ เพราะเชื่อว่าการเลือกแบรนด์ผิดพลาดจะมีผลกระทบต่อสถานะของตนอย่างมาก จนกลายเป็นว่าคนวัยนี้ ไม่ใช่แบรนด์อะไรก็ได้ ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ต้องผ่านการกลั่นกรองและมีความเชื่อมั่นในระดับที่ยอมรับได้ก่อน
ประการที่สี่ การค้นหาแบรนด์ที่จะใช้เปรียบเทียบในการซื้อสินค้าแต่ละครั้งของกลุ่มลูกค้าวัยทีน ใช้เครือข่ายสื่อออนไลน์อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อค้นหาว่าคนอื่นๆ มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับแบรนด์อย่างไร วิธีการหรือช่องทางนี้ใช้กันค่อนข้างมากและหนาแน่น ในการซื้อแผ่นเพลง วิดีโอ ความเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์ เกม โดยเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดน่าจะเป็นเฟซบุ๊ก เพียงแต่ยังคงจำกัดอยู่ในสินค้าและบริการด้านเอนเตอร์เทนเป็นหลัก

บุคลิกของเพื่อนที่เป็นผู้ทรงอิทธิพล คือ คนที่มีความเชื่อมั่นสูง ดูดี น่าเชื่อถือ และดูรอบรู้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายด้วยกันเองที่ช่วยให้ความเชื่อถือเกี่ยวกับแบรนด์ในทางบวกได้ ก็จะได้พลพรรคและสาวกของบุคคลดังกล่าวมาอีกมาก

แนวทางการตลาดที่น่าจะตอบสนองกับความต้องการของคนกลุ่มวัยทีนได้ มักจะเป็นการทำงานร่วมกันในรูปแบบของแบรนด์คอลลาบอเรชั่น (Brand collaboration) เป็นการจับมือกันกับแบรนด์อื่นๆ ที่มีลูกค้าเป้าหมายกลุ่มเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น การจับมือกันทำการตลาดแบรนด์ระหว่าง เอ็กซ์บ็อกซ์ที่ทำงานกับเนตฟิกซ์ ช่องทางอีกช่องทางหนึ่งคือการให้ทดลองใช้ฟรี (free trials) ซึ่งเป็นช่องทางที่ดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้ไม่ยาก

นอกจากนั้น การศึกษาเกี่ยวกับลูกค้าวัยทีนยังพยายามเจาะลึกลงไปในสิ่งที่วัยทีนชอบอ่าน สถานที่ที่ลูกค้ากลุ่มนี้ชอบไปชอปปิ้ง สิ่งที่ลูกค้าต้องการจะซื้อ และเว็บไซต์ที่ลูกค้าชอบเข้าไปท่องหาข้อมูลเป็นกิจกรรมประจำวัน ในฐานะของนักการตลาด จะต้องเข้าไปให้ถึงตัวลูกค้าตามโรงเรียนและในห้องนอนให้ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้าแสวงหาจริงๆ   

การประเมินของโกลบอล กลานซ์ พบว่าประชากรของวัยทีนทั่วโลกน่าจะมีจำนวนประมาณ 461 ล้านคน ที่อยู่ในวัย 12-19 ปี และเป็นผู้ที่มีอำนาจซื้อสูงรวมกันมากกว่า 592.000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยทีเดียว

แต่การจับตลาดวัยรุ่นไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันเสียทั้งหมด เพราะในขณะที่สินค้าแฟชั่นและสินค้าตามร้านอาหารลดลง ได้มีการพบว่าการซื้อสินค้าประเภทวิดีโอเกมของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นยังคงเพิ่มขึ้น รวมทั้งแผนการซื้อไอโฟนก็ยังคงมีแนวโน้มในทางบวก

ผลการทำโพลสำรวจ 'The 17th biannual Taking Stock with Teens' เมื่อไม่นานมานี้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ เช่น แบรนด์เสื้อผ้า เวสต์ โคสท์ แบรนด์ (อย่างเช่น Pacific Sunwear, C Volcom, Quicksilver  และ Zumiez) เป็นแบรนด์เสื้อผ้าอันดับหนึ่งที่วัยรุ่นพอใจ รองลงมาคือ Hollister, Nike, Forever 21 และอเมริกันอีเกิลตามลำดับ แบรนด์ Hollister เป็นที่นิยมสูงสุดในกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง ขณะที่ West Coast Brands เป็นแบรนด์ยอดนิยมของวัยรุ่นชาย

รายจ่ายวิดีโอเกม มีสัดส่วน 8% ของงบทั้งหมดที่ใช้จ่าย เทียบกับ 3% เมื่อราว 5 ปีที่แล้ว และ 89% ของวัยรุ่นเป็นเจ้าของเครื่องเล่นวิดีโอเกมอย่างน้อย 1 เครื่องและราว 59% มีเครื่องเล่น 2 เครื่อง

วัยรุ่น 86% เป็นเจ้าของ MP3 และไอพอด เพิ่มขึ้นจาก 84% เมื่อปีก่อนหน้าและราว 8% ของนักเรียนระบุว่าเป็นเจ้าของไอโฟนของแอปเปิล เพิ่มขึ้นจาก 6% ของปีก่อน และราว 16% ของนักเรียนมีแผนจะซื้อไอโฟนในอีก 6 เดือนข้างหน้า

สตาร์บัคส์เป็นร้านค้าที่วัยรุ่นนิยมมากที่สุด แม้ว่ายอดรายจ่ายตามร้านอาหารจะลดลงจากเดิมก็ตาม

ราว 95% ของวัยรุ่นที่ไปตามร้านค้าในรอบ 30 วันที่ผ่านมาระบุว่า ได้สังเกตเห็นงานโฆษณาของห้างค้าปลีกนั้น และยังนิยมใช้เวลาและเงินตามชอปปิ้งมอลล์นานกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป 68% และอีก 28% ระบุว่าใช้เวลาเกินกว่า 8 ชั่วโมงต่อครั้ง

นอกเหนือจากนั้น การศึกษาพบว่าวัยรุ่นราว 72% ยินดีที่จะทำความรู้จักกับแบรนด์ใน Habbo Hotel ในขณะที่ 40% ของผู้ใหญ่แสวงหาแบรนด์ผ่าน facebook มากกว่า และไม่ได้รู้สึกแตกต่างกันมากระหว่างแบรนด์ออนไลน์และออฟไลน์ แสดงถึงการยอมรับแบรนด์ออนไลน์มากขึ้นนั่นเอง

ยุทธการกำจัดถุงพลาสติก: ยังกวนใจนักการตลาดโลก

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 23 มีนาคม 2551 19:57 น.
       
** คำถาม จงเสนอแนะแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมแก่สินค้าของกลุ่ม

กระแสกดดันทางการตลาดต่อการลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกแบบเกร่อและไม่รับผิดชอบต่อผลกระทบทางสภาพแวดล้อมที่ดูเหมือนเป็นเรื่องวูบวาบ อาจไม่ใช่แค่พูดกันเล่น ๆ อีกต่อไป เพราะแรงบีบจากกลุ่มต่าง ๆ ต่อผู้ประกอบการยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
             
นอกเหนือจากผู้ประกอบการแล้ว ในแต่ละวันกิจการค้าปลีกก็ได้กลายเป็นหน้าด่านที่ป้อนเจ้าถุงพลาสติกจำนวนมหาศาลสู่มือของผู้บริโภค จนมีร้านค้าปลีกรายใหญ่ ๆ ต้องออกมาทำอะไรบางอย่าง เพื่อจะบอกว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาโลกเรื่องนี้ อย่างเมื่อไม่นานมานี้ ห้างค้าปลีกเสื้อผ้าในยุโรปชื่อเซนส์บูรี่ได้ใช้แนวคิดเชิงแฟชั่นด้วยการเปลี่ยนถุงพลาสติกให้เป็นเสื้อผ้าสวมใส่ เพื่อให้เข้ากระบวนการรีไซเคิลแทนที่จะทิ้งเกลื่อนกลาดและกำจัดไม่ได้ง่าย ๆ
                
ห้างเซนส์บูรี่ได้เปิดตัวการแสดงแฟชั่นคอลเลกชั่นเสื้อผ้าที่ล้วนแต่ทำมาจากพลาสติกพีซีไซเคิลที่ทิ้งจากร้านค้าของตนเองซึ่งอาจมาจากผู้บริโภคหรือตามถังขยะต่าง ๆ โดยเฉพาะบรรดาพลาสติกที่เป็นขวดน้ำดื่มประเภทน้ำอัดลม ขวดน้ำผัก และผลไม้หรือแม้แต่ถาดพลาสติกใส่เนื้อสัตว์หรือผัก
             
แหล่งผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุพลาสติกที่ว่านี้ผลิตจากโรงงานในยุโรปใกล้กับแหล่งที่ป้อนวัตถุดิบ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำ โดยมีทั้งเสื้อเชิ้ต กางเกง กระโปรง และจะเริ่มวางจำหน่ายตามร้านค้าในเครือข่ายของกิจการไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของร้านค้าที่มีราว 500 แห่งภายในปลายปีนี้ โดยไม่ได้ชาร์จราคาเพิ่มจากราคาปกติแถมยังสวมใส่แล้วไม่รู้สึกว่ามีความแตกต่างจากเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ แต่อย่างใด
             
นอกเหนือไปจากการสร้างความแตกต่างของโมเดลการทำธุรกิจเสื้อผ้า ด้วยการนำถุงพลาสติกและหีบห่อพลาสติกมารีไซเคิลและดีไซน์ให้ใช้เป็นเส้นใยผลิตเสื้อผ้าได้แล้ว ห้างค้าปลีกเสื้อผ้าเซนส์บูรี่ยังเตรียมแผนดำเนินงานในการใช้เส้นใยฝ้ายที่เป็นกลุ่มออร์แกนิค ปราศจากการเพาะปลูกด้วยสารเคมีทางวิทยาศาสตร์และผ่านการตรวจสอบว่าเป็นการค้าที่เป็นธรรมหรือแฟร์เทรดไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ผลิต
               
ผู้ประกอบการชั้นนำของโลกอีกรายที่ใส่ใจและวางตำแหน่งทางการตลาดของตนเองในกลุ่มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือ มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ห้าง เอช แอนด์ เอ็ม และห้างเนชต์ ก็เตรียมปรับสายการจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้าเป็นกลุ่มออร์แกนิคและแฟร์เทรดเช่นกัน
               
ตัวอย่างของการตื่นตัวจากผู้ประกอบการหลายรายพร้อมๆกันทำให้นักการตลาดและผู้เชี่ยวชาญวงการแฟชั่นเสื้อผ้าเชื่อว่าเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิลไม่ใช่กระแสแฟชั่นที่หวือหวาชั่วคราว แต่น่าจะเป็นแนวโน้มที่มีนัยสำคัญและไม่อาจจะล้อเล่นได้ หมายความว่าหน้าใหม่อีกหน้าหนึ่งของการตลาดแฟชั่นโลก คือ หน้าที่เรียกว่า กรีน พีชหรือ “Eco Chic” นั่นเอง